เจ้าของร้านค้านี้ ไม่ได้เข้าสู่ระบบเป็นระยะเวลา 36 วัน แล้ว
ข้อมูล
น้ำหนัก
บาร์โค้ด
ลงสินค้า
อัพเดทล่าสุด
รายละเอียดสินค้า

สูตรใหม่สาววัย60-70ปีในญี่ปุ่นนิยมกันมากที่สุด!!!!Fancl Good Choice For 60's WOMAN อาหารเสริมบำรุงผิวที่เหมาะที่สุดของผู้หญิงในช่วงอายุ 60-70ปีที่ตอบสนองความต้องการในช่วงวัยที่ต้องการแร่ธาตุและอาหารของผิวช่วยปัญหาวัยทองได้ดีอีกด้วยค่ะ

 Fancl Good Choice For 60's WOMAN  บำรุงผู้หญิงในช่วงวัย 60 - 70 ปี ตามช่วงอายุที่ผูหญิงต้องการคุณประโยชน์ของสารอาหารมีดังนี้


 บำรุงดวงตาให้ไม่เสื่อมและบำรุงร่างกายจากการใช้ร่างกายไม่ให้เหนื่อยในระหว่างวัน

 

Blueberry

บลูเบอร์รีนั้นขึ้นชื่อว่าเป็นผลไม้ที่มีปริมาณสารต้านอนุมูลอิสระอยู่ในระดับสูงมาก ที่สำคัญคือบลูเบอร์รีสดยังเป็นผลไม้ที่ติด 1 ใน 10 ของผักผลไม้ที่มีค่าโอแร็ก (ORAC : Oxygen Radical Absorbance Capacity) สูงสุด ซึ่งค่าดังกล่าวเป็นหน่วยวัดความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระ เพราะใรบลูเบอร์รีนั้นมีวิตามินเอ ซี และอี ที่ช่วยบำรุงผิว บำรุงผม และเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน มีแอนโทไซยานิน ซึ่งเป็นสารฟลาโวนอยด์ชนิดหนึ่งที่ทำให้บลูเบอร์รีมีสีน้ำเงินเข็มหรือม่วง เป็นประโยชน์ต่อระบบการไหลเวียนโลหิต และช่วยชะลอการเสื่อมของเซลล์ในร่างกายที่มีสาเหตุจากอนุมูลอิสระได้เป็นอย่างดี การกินบลูเบอร์รีเป็นประจำจึงช่วยลดการเกิดริ้วรอยก่อนวัย และลดโอกาสเกิดโรคความจำเสื่อมอย่างอัลไซเมอร์ (Alzheimer’s Disease) ได้ นักวจัยในสหรัฐอเมริกา ได้นำเสนอรายงานการค้นพบสารเทโรสทิลบีน (Pterostilbene) ที่มีฤทธิ์ลดระดับคอเลสเตอรอล ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด โดยทีมวิจัยระบุว่า สารดังกล่าวใช้ได้ผลดีพอ ๆ กับยาลดคอเลสเตอรอลชนิดหนึ่ง แต่ให้ผลแม่นยำกว่าและมีผลข้างเคียงน้อยกว่า

บลูเบอร์รีมีเพกตินซึ่งเป็นเส้นใยอาหารชนิดละลายน้ำ จึงช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลและยับยั้งการดูดซึมสารพิษเข้าสู่ร่างกาย มีกรดเอลลาจิก ที่อาจช่วยยับยั้งสารก่อมะเร็งและการเจริญของเซลล์เนื้องอก และที่พิเศษสำหรับคุณผู้หญิงโดยเฉพาะก็คือ บลูเบอร์รีช่วยป้องกันโรคที่มักเกิดในผู้หญิง อย่างโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ เพราะมีสารช่วยป้องกันการติดเชื้อแบคทีเรียภายในระบบทางเดินปัสสาวะ ด้วยประโยชน์มากมายของบลูเบอร์รี จึงทำให้ใครหลายคนหันมาสนใจผลไม้ชนิดนี้มากขึ้น บอกได้เต็มปากว่าคุ้มค่าเกินราคาและสมแล้วที่เป็นผลไม้ที่ชาวยุโรปนิยมกินกัน

lutein

ลูทีน(Lutein) เป็นสารกลุ่มแคโรทีนอยด์ มีสีเหลืองสามารถต้านฟรีแรติคัล มีประดยชน์ อนัดดดเดน่ คอื การปกป้องตวัตาและบารุงสายตา ชว่ ยชลอความเส่อืมของดวงตาใหช้า้ลง ถ้าพูดถึงคุณสมบัติในการต้านมะเร็ง ลูทีนจะช่วยลดโอกาสเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งปอดมะเร็ง ลาไส้และมะเร็งเต้านมได้ค่ะ เราจะหาลูทีนในอาหารได้จากผักสีเขียว ส้ม กีวี องุ่น ผักโขม ฯลฯ - สารลูทีน (Lutein) คืออะไร สารลูทีน (Lutein) เป็นสารสกัดจากธรรมชาติ จัดอยู่ในกลุ่มสารที่มีสี ในตระกูลแคโรทีนอยด์ เป็นสารที่พบบริเวณตา ลูทีนเป็นแคโรทีนอยด์สีเหลือง ซึ่งมีส่วนอย่างมาก ในการต่อต้านสาร ต้านอนุมูลอิสระ ลูทีนพบได้ทั่วไปในผักใบเขียว ข้าวโพด และ ไข่แดง และมีส่วนสาคัญใน การบ ารุงสายตา โมเลกุลของลูทีนพบในปริมาณสูงในจุดของดวงตา โดยที่ ลูทีนจะฉาบบน ผิวของเรตินา (Retina) บริเวณจุดรับภาพของลูกตา (macula) ซึ่งเป็นต าแหน่งที่สาคัญที่สุด ในจอประสาทตา เพราะเป็นจุดที่รูปภาพและแสงสว่าง ส่วนมากจะมาตกบริเวณนี้ ซึ่งเป็น ส่วนที่จอตารับภาพได้ชัดเจนที่สุด ลูทีนจะช่วยในการดูดซับ แสงสีน้าเงินในแถบสีการมอง เหน็ และชว่ ยปกป้องการทา ลายของคลื่นสั้นที่มีต่อเยื่อบุผิวเรตินาจากการศึกษา พบว่า ระดับลูทีน 2.0 – 6.9 มลิลกิรมัต่อวนั จะชว่ ยป้องกันความเสื่อมของจุดด่างในดวงตา ดังนั้นพอจะพูดได้ว่า สารลูทีนจะช่วยสร้างสารต้านอนุมูลอิสระในการป้องกนัเยอ่ืแกว้ตา (retina)

หน้าที่ของ Lutein

1. Lutein ท าหน้าที่ช่วยให้มองภาพได้คมชัด และเห็นรายละเอียดของภาพดีขึ้น

2. Lutein มีรายงานถึงผลการวิจัยที่ชัดเจนมากมาย สามรถลดอุบัติการณ์ โรคต้อกระจกใน ผู้สูงอายุได้จริง

3. Lutein ลดความเสี่ยง ในการเป็นโรคจุดรับภาพเสื่อม (Age - Related Macular Degeneration หรือ AMD)

4. Lutein ลดอุบัติการณ์โรคมะเร็งเต้านมในสตรี กลุ่มที่มีความเสี่ยง

5. Lutein ลดกลไกการเกิด Plague ในผนักเส้นเลือด ทำให้ลดอัตราการเป็นโรคหัวใจขาด เลือด และโรคหลอดเลือดตีบในสมอง

 

Astaxanthin

 

Astaxanthin แอสต้าแซนธิน คือสารแคโรทีนอยด์ที่พบมากในธรรมชาติ ซึ่งร่างกายไม่สามารถสังเคราะห์สารชนิดนี้ได้เอง จำเป็นต้องได้รับสารชนิดนี้จากการทานอาหารเท่านั้น มีสารต้านอนุมูลอิสระที่เข้มข้นสูงที่สุดในโลก สกัดจากสาหร่ายทะเล ซึ่งมีส่วนประกอบของ สารแอสต้าแซนธินธรรมชาติ วิตามิน A , E และ ลูทีน มีคุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระ ซุปเปอร์แอนติออกซิแดนท์

  • สูงกว่าวิตามินซี 6,000 เท่า 
  • สูงกว่าโคคิวเท็น CoQ10 800 เท่า 
  • สูงกว่าวิตามิน E ถึง 550 เท่า 
  • สูงกว่าสารกัดจากชาเขียว 550 เท่า 
  • สูงกว่ากรดลิโปอิก Alpha Lipoic Acid สูงกว่า 75 เท่า 
  • สูงกว่า เบต้าแคโรทีน 40 เท่า 
  • สูงกว่าสารกัดจากเม็ดองุ่น 17 เท่า


บำรุงรักษาข้อและเติมเต็มน้ำหล่อเลี้ยงกระดูกไม่ให้แห้งป้องกันการปวดกระดูก

Glucosamine

 กลูโคซามีนเป็นโปรตีนสำคัญในการสร้างและซ่อมแซม กระดูก เนื้อเยื่อ และน้ำเลี้ยงข้อในส่งต่างๆ ของร่างกายมีผลกระตุ้นการสังเคราะห์และยับยั้งการสลายตัวของโปรติโอไกลแคน (Proteoglycans) ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญในกระดูกอ่อนที่ทำหน้าที่กันการกระแทกระหว่างกระดูกข้อ นอกจากนี้กลูโคซามีนยังแสดงฤทธิ์ต้านการอักเสบอย่างอ่อนๆด้วย 

ข้อดีของ  Glucosamine 
  • ลดการอักเสบที่เกิดจากโรคที่เกี่ยวข้องเช่นเดียวกับโรคข้อเข่าเสื่อมและโรคไขข้ออักเสบ
  • ร่วมกันเพิ่มความแข็งแรงและช่วงของการเคลื่อนไหว
  • ช่วยลดการพึ่งยาต้านการอักเสบ เพราะการทายาแก้ปวดข้อมากๆ จะมีผลทำให้กระดูกเสื่อม ,ระคายเคืองกระเพาะอาหาร
  • มีส่วนช่วยบรรเทาอาการลำไส้ใหญ่บวม  และหัวใจล้มเหลว
  • เป็นหนึ่งในวัตถุดิบที่ใช้ในการฟอร์มกระดูกอ่อนใหม่ในร่างกาย  
  • มันเป็นสิ่งจำเป็นในแบบฟอร์ม glycosaminoglycans และ synovial ของเหลวที่ช่วยให้ข้อต่อและการหล่อลื่นดี cushioned.
  • บรรเทาอาการปวดข้อและกล้ามเนื้อ  บรรเทาโรคข้อเข่าเสื่อม (OA)

 

 

Proteoglycan

Proteoglycan มีหน้าที่สำคัญในการเชื่อมและยึดจับเซลล์เนื้อเยื่อเข้าด้วยกัน เช่น เส้นเอ็น ข้อต่อกระดูกต่างๆ รวมถึงช่วยเสริมการสร้างเนื้อเยื่อและเส้นเลือด สามารถพบได้ทั่วไปในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม โดยมีปริมาณถึงร้อยละ 33 ของโปรตีนทั้งหมดในร่างกายผิวหนังเราทั้งทำหน้าที่เป็นเกราะกำบังร่างกายต้องสัมผัสกับแดดจ้าฝุ่นควัน พิษ ต่างๆ นาๆ ไม่เว้นแต่ละวัน อันเป็นสาเหตุที่ทำให้ผิวพรรณแห้งเหี่ยว หยาบกระด้าง และเกิดริ้วรอย นอกจากนี้พฤติกรรมการดำเนินชีวิตบางอย่าง เช่น นอนดึกสูบบุหรี่ ดื่มกาแฟ ฯลฯ ยังเป็นตัวการสำคัญที่คอยเร่งให้ผิวพรรณที่เคยเปล่งปลั่งต้องเสื่อมสภาพก่อน



บำรุงผิวต่อต้านความเสื่อมของร่างกายพร้อมบำรุงสมอง

 

Ferulic

Ferulic Acid กรดเฟอรูลิก เป็นสารที่พบในใบและเมล็ดของพืชหลายชนิด มีคุณสมบัติช่วยให้ผนังเซลล์มีความแข็งแรง แหล่งที่พบมากที่สุดคือในธัญพืช เช่น ข้าว, ข้าวสาลี ข้าวโพด ข้าวโอ๊ต เมล็ดกาแฟ, แอปเปิ้ล, อาติโช๊ค, ถั่วลิสงส้ม และสับปะรด นอกจากนี้ยังสามารถสะกัดได้จากรำข้าวสาลี และรำข้าวโพด

 

กรดเฟอรูลิก เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพ ทั้งสามารถป้องกันอนุมูลอิสระที่เกิดขึ้นกับผิว และอนุมูลอิสระ ที่เกิดขึ้นใน Vitamin ชนิดต่างๆ ที่ผสมอยู่ในสูตร  และสามารถป้องกันการทำลายผิวของแสง UVB (เหมาะสำหรับผสมในสูตรกันแดด ไม่ได้ช่วยป้องกันแสงแดดโดยตรง แต่ช่วยป้องกันกระบวนการทำลายผิวของแสง UVB

 

Ginkgo

 

ประโยชน์ของแปะก๊วย

  1. สารสกัดจากใบแปะก๊วย เป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระชั้นเลิศ
  2. ช่วยชะลอความแก่ชราและป้องกันโรคมะเร็งได้
  3. ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิตได้ดีอีกด้วย ทำให้มีก๊าซออกซิเจนไปเลี้ยงสมอง หัวใจ และอวัยวะต่าง ๆตามร่างกาย
  4. ช่วยบำรุงสมอง ป้องกันโรคสมองเสื่อมได้
  5. ช่วยในเรื่องของการเพิ่มสมาธิและช่วยเพิ่มความคจำ ความคิดได้ดี
  6. ช่วยให้ผู้ป่วยอัลไซเมอร์มีพัฒนาการรับรู้และเข้าสังคมได้ดีขึ้นด้วย
  7. ช่วยต้านโรคซึมเศร้าอย่างได้ผลสำหรับผู้ป่วยที่ไม่ตอบสนองต่อการรักษาแบบทั่วไป
  8. ช่วยลดอาการตะคริวหรือการเจ็บกล้ามเนื้อบริเวณต่าง ๆ
  9. ช่วยลดอาการวิงเวียนศีรษะ เสียงดังในหู หรือหูอื้อลงได้
  10. ช่วยบรรเทาอาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศได้ดี หรือจะเรียกว่าเป็นไวอะกร้าชั้นดีจากธรรมชาติเลยก็ว่าได้
  11. สารสกัดจากใบแปะก๊วย ยังช่วยป้องกันและรักษาโรคศูนย์กลางจอประสาทตาเสื่อมได้
  12. สามารถช่วยป้องกันโรคเบาหวานขึ้นตาได้
  13. สำหรับผู้ป่วยโรคหอบหืด การรับประทานใบแปะก๊วย จะช่วยป้องกันการหดตัวของกล้ามเนื้อหลอดลมได้

 

 



เผาผลาญร่างกายช่วยให้ร่างกายอ่อนเยาว์

 

Coenzyme Q10

ประโยชน์ของโคเอนไซม์คิวเทน

  1. โคเอนไซม์คิวเทนเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่พบได้ในทุกเซลล์ของสิ่งมีชีวิต มีความสำคัญอย่างมากต่อการสร้างพลังงาน
  2. มีความสำคัญอย่างมากต่อการทำงานของระบบต่าง ๆ ในร่างกาย เพราะถ้าหากร่างกายขาด Coenzyme Q10 เซลล์ในร่างจะหยุดทำงานทันที!!
  3. มีบทบาทสำคัญในการช่วยลดริ้วรอย และชะลอการเสื่อมของเซลล์ผิวหนัง
  4. Coenzyme Q10 มีคุณสมบัติคล้ายกับวิตามินอี ช่วยเสริมการทำงานของหัวใจ เพิ่มพลังงานแก่ร่างกาย เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
  5. ช่วยรักษาโรคเหงือก ชะลอความผิดปกติและการดำเนินของโรคพาร์กินสันได้
  6. สำหรับผู้สูงอายุหลาย ๆคนแล้วการรับประทานโคคิว10 จะทำให้ร่างกายรู้สึกเหมือนมีพลังขึ้นมาทันที
  7. เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหากล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด เพราะโคคิว10 จะไปช่วยบรรเทาอาการเจ็บหน้าอกได้ดีกว่ายาแผนปัจจุบัน
  8. เชื่อว่าสามารถช่วยรักษาและป้องกันโรคมะเร็งได้

 บำรุงร่างกายด้วยวิตามินขั้นพื้นฐานที่จำเป็นต่อร่างกาย

 

Vitamin B 

 

วิตามิน บี เป็นหนึ่งในวิตามินชนิดที่ละลายในน้ำได้ หรือเรียกว่า Vitamin B Complex แต่วิตามินบี ตัวนี้จะไม่สามารถเก็บไว้ในร่างกายของเราได้ โดยมันจะถูกขับออกทางปัสสาวะ แต่ก่อนมันจะถูกขับออกมันได้สร้างประโยชน์ให้เราอย่างมหาศาล โดยตัว Vitamin B Complex นั้นจะทำหน้าที่เปลี่ยนคาร์โบไฮเดรตในร่างกายให้เป็นน้ำตาลกลูโคสซึ่งร่างกาย สามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานไปใช้ได้ และช่วยในกระบวนการเมตาโบลิซึมของไขมันและโปรตีน รวมถึงการทำงานของระบบประสาท และกล้ามเนื้อในระบบทางเดินอาหาร โดยจะมีวิตามินบี 1, บี 2, บี 3,บี 5, บี 6 และบี 12 บางทีเรียกรวมกันว่า วิตามินบีรวม มีความสำคัญในการเป็นตัวเร่งปฏิกิริยา หรือทำให้ปฏิกิริยาต่างๆ ในร่างกายดำเนินไปได้

ประโยชน์ของวิตามินบี รวม

– วิตามินบี 1 มีหน้าที่ในการเผาผลาญน้ำตาลที่เรารับประทานเข้าไปให้เกิดเป็นพลังงาน จะช่วยป้องการการเกิดโรคโลหิตจาง และโรคเหน็บชา ถ้าร่างการขาดวิตามินบี 1 จะทำให้ร่างกายอ่อนเพลีย ชาตามนิ้วมือนิ้วเท้าและเกิดผลเสียต่อกล้ามเนื้อหัวใจจากการคั่งค้างของเสีย
– วิตามินบี 2 มีประโยชน์มากในเด็กที่กำลังเจริญเติบโต ป้องกันการเกิดแผลในปากและโรคปากนกกระจอก ป้องกันการเกิดโรคไมเกรน ช่วยทำให้ ผิวหนัง เล็บ เส้นผมมีสุขภาพ และลดการเกิดมะเร็งหลอดอาหารอีกด้วย
– วิตามินบี 3 มีหน้าที่ในการเผาผลาญอาหาร ทำให้เกิดพลังและการสร้างไขมันในร่างกาย ช่วยทำลายสารพิษจากมลพิษ ควันบุหรี่ รักษาอาการเครียดและช่วยในการไหลเวียนของเลือด
– วิตามินบี 5 มีความจำเป็นต่อการทำงานของสมอง บรรเทาอาการข้ออักเสบ ช่วยในการนอนหลับให้ดีขึ้น และควบคุมสมดุลเกลือแร่ในร่างกาย
– วิตามินบี 6 จำเป็นต่อการทำงานของสมองและระบบประสาท และมีหน้าที่สำคัญในการเผาผลาญโปรตีนในรายกาย ช่วยปรับสภาพผิวหนังให้เป็นปกติ
– วิตามินบี 12 มีความจำเป็นในการสร้างเม็ดเลือด การทำงานของระบบประสาทส่วนกลาง และระบบทางเดินอาหาร ป้องกันอาการอ่อนเพลียจากโรคโลหิตจาง

 

Vitamin  C

Vitamin  C วิตามินซี เป็นวิตามินที่ละลายได้ในน้ำ ร่างกายของมนุษย์ไม่สามารถที่จะสร้างขึ้นมาเองได้ ประโยชน์มีดังนี้

  • ใช้ในกระบวนการสังเคราะห์คอลลาเจน (Collagen) และ แอลคาร์นิทีน (L-carnitine, สารที่ช่วยให้ร่างกายใช้พลังงานได้อย่างปกติ)
  • เป็นส่วนร่วมในกระบวนการทำงานของสารสื่อประสาท(Neurotransmitters) ชนิดต่างๆ
  • เป็นส่วนประกอบในเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน(Connective tissue) ซึ่งจะมีประโยชน์ต่อการสมานบาดแผล
  • เป็นส่วนร่วมของกระบวนการเปลี่ยนแปลงโปรตีนเพื่อการใช้งานในร่างกาย
  • เป็นสารต้านอนุมูลอิสระของร่างกายรวมถึงมีส่วนร่วมในการสร้างสารต้านอนุมูลอิสระชนิดอื่นเช่น วิตามินอี หรือ Tocopherol อีกด้วย

หากร่างกายขาดวิตามินซีจะะแสดงออกมาให้เห็นในลักษณะของเลือดออกตามไรฟัน (โรคลักปิดลักเปิด/โรคขาดวิตามินซี)อ่อนเพลีย และทำให้หลอดเลือดฝอยขาดความยืดหยุ่นไม่แข็งแรงหลอดเลือดจึงแตกได้ง่าย



วิตามินแร่ธาตุจากผักเพิ่มความแข็งแรงให้สุขภาพร่างกาย

 

Vegetable Lactic Acid Bacteria

 

ประโยชน์ของผักผลไม้ 5 สี

  • ผักผลไม้สีเขียว โดยสารที่ให้สีเขียวก็คือสารคลอโรฟิลล์ และยังมีสารประกอบอื่น ๆ ที่มีคุณสมบัติบำรุงสุขภาพ เช่น ลูทีน ที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยป้องกันมะเร็ง และลดการเกิดความเสื่อมของจอประสาทตาได้ เป็นต้น ผักผลไม้ในกลุ่มนี้ ได้แก่ กวางตุ้ง กะหล่ำปลี ชะอม ผักคะน้า ผักโขม บล็อกโคลี่ ชมพู่เขียว แตงไทย ฝรั่ง พุทรา น้อยหน่า มะกอกน้ำ อะโวคาโด องุ่นเขียว แอปเปิ้ลเขียว ฯลฯ
  • ผักผลไม้สีขาวหรือสีน้ำตาล จะมีสารฟลาโวนอยด์อยู่หลายชนิด ที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ต้านการอักเสบ ลดการแบ่งตัวของเซลล์มะเร็ง ช่วยลดอาการปวดข้อเข่า ซึ่งจะพบได้มากในเนื้อและเปลือกมังคุด แก้วมังกรเนื้อขาว ฝรั่ง แอปเปิ้ล และผลไม้อื่น ๆ เช่น กล้วย เงาะ ลางสาด ลองกอง ลิ้นจี่ พุทรา เป็นต้น
  • ผักผลไม้สีเหลืองหรือสีส้ม จะมีสารเบต้าแคโรทีน ฟลาโวนอยด์ วิตามินซี ที่่ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ต้านการอักเสบและเพิ่มระบบภูมิคุ้มกัน ช่วยป้องกันและลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็ง กระตุ้นการกำจัดเซลล์มะเร็งของร่างกาย ช่วยดูแลรักษาสุขภาพหัวใจ หลอดเลือด และระบบภูมคุ้มกันภายในร่างกาย ผักผลไม้ในกลุ่มนี้ ได้แก่ ข้าวโพด แครอท ฟักทอง กล้วย ขนุน แคนตาลูปสีเหลือง มะละกอสุก ส้ม สับปะรด แอปริคอต เป็นต้น
  • ผักผลไม้สีแดงหรือสีชมพูอมม่วง จะมีสารในกลุ่ม Lycopene และ Betalain ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็ง โดยเฉพาะมะเร็งต่อมลูกหมากของผู้ชาย ช่วยบำรุงหัวใจและหลอดเลือด ช่วยปริมาณของไขมันร้าย (LDL) ภายในเลือด และบำรุงระบบทางเดินปัสสาวะ โดยจะพบอยู่ในผักผลไม้จำพวกดอกกระเจี๊ยบ แก้วมังกรเนื้อชมพู แตงโม ตะขบ ชมพู่แดง เชอร์รี่ มะเขือเทศ มะละกอเนื้อแดง หัวบีทรูท หัวหอม สตรอเบอร์รี่ แอปเปิ้ลแเดง เป็นต้น
  • ผักผลไม้สีม่วงแดงหรือสีม่วงหรือสีน้ำเงิน จะอุดมไปด้วยสารแอนโทไซยานิน (Anthocyanin) และกลุ่ม Polyphenol ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ ป้องกันการทำลายของรังสีอัลตร้าไวโอเลต ช่วยปกป้องทุกเซลล์ให้พ้นภัยจากเซลล์มะเร็งตัวร้าย ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้แก่ผนังหลอดเลือด ช่วยลดการเกิดไขมันอุดตันในหลอดเลือดและโรคหลอดเลือดหัวใจแข็งตัว ช่วยยับยั้งเชื้ออีโคไลในทางเดินอาหารที่ทำให้เกิดท้องเสีย ช่วยต้านไวรัส และลดการอักเสบได้ ผักผลไม้กลุ่มนี้ได้แก่ กะหล่ำปลีม่วง ข้าวเหนียวดำ ข้าวแดง ข้าวนิล ชมพู่มะเหมี่ยว ชมพู่แดง ถั่วดำ ถั่วแดง เผือก มันสีม่วง มะเขือม่วง หอมแดง ดอกอัญชัน น้ำว่านกาบหอย ลูกหว้า ลูกไหน ลูกพรุน บลูเบอร์รี่ แบล็กเบอร์รี่ แครนเบอร์รี่ องุ่นแดง องุ่นม่วง เป็นต้น


 แร่ธาตุที่ผู้หญิงวัย 60 จำเป็นต้องได้รับอย่างยิ่ง

Calcium

แคลเซียม ( Calcium ) เป็นแร่ธาตุที่มีมากที่สุดในร่างกาย คือประมาณ 1,250 กรัม ซึ่งร้อยละ 55 จะอยู่ในกระดูกและฟัน โดยจับกันเป็นผลึกอยู่กับฟอสฟอรัส เป็นเกลือ Calcium Phosphates ดังนั้น เวลากล่าวถึง Calcium ในร่างกาย จึงมักนึกถึงเฉพาะกระดูก ทั้งที่จริงแล้วยังมีแคลเซียมอีกส่วนอยู่ในเลือดโดยจับอยู่กับโปรตีนในเลือดและอยู่เป็นแคลเซียมอิสระ

 หน้าที่ของ calcium
          
นอกจากจะเป็นส่วนประกอบของกระดูกแล้ว ยังมีหน้าที่อื่นๆ อีกได้แก่ ช่วยในการแข็งตัวของเลือด เกี่ยวกับการทำงานของกล้ามเนื้อระบบประสาท ทำให้เกิดการหดตัวของเซลล์กล้ามเนื้อทั่วไป รวมทั้งกล้ามเนื้อหัวใจให้เป็นไปตามปกติ นอกจากนั้น calcium ยังเป็นตัวกระตุ้นการทำงานของโปรตีนอื่นๆ เช่น Osteocalcin ซึ่งเป็น corboxylated- glutamic acid ให้จับกับ แคลเซียมของ Hydroxyapatite ช่วยในกระบวนการสร้างและสลายกระดูก เรื่องที่สำคัญอีกอย่าง คือ แคลเซียมจากกระดูกยังทำหน้าที่ในการควบคุมความสมดุลของกรดและด่างในร่างกายด้วย

 

Magnesium

แมกนีเซี่ยม มีความสำคัญต่อการทำงานของเส้นประสาทและกล้ามเนื้อ เป็นแร่ธาตุที่ช่วยผ่อนคลายความเครียดได้ และส่วนช่วยในการเปลี่ยนแปลงน้ำตาลในเลือกให้เป็นพลังงาน

ประโยชน์ของแมกนีเซียม

  1. ช่วยในการเผาผลาญไขมันและเปลี่ยนเป็นพลังงาน
  2. ช่วยควบคุมระดับคอเลสเตอรอล
  3. ช่วยรักษาอาการซึมเศร้าได้
  4. ป้องกันการหดเกร็งของกล้ามเนื้อ
  5. ช่วยทำให้หลอดเลือดและหัวใจแข็งแรง ช่วยป้องกันโรคหัวใจเฉียบพลัน
  6. ช่วยลดความรุนแรงของการเจ็บปวดจากกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด (Anginapain)
  7. ช่วยให้สุขภาพฟันแข็งแรง
  8. ช่วยป้องกันการคลอดบุตรก่อนครบกำหนด
  9. ช่วยบรรเทาอาการปวดก่อนมีประจำเดือน (PMS)
  10. ช่วยบรรเทาอาการอาหารไม่ย่อยในกระเพาะ
  11. ช่วยป้องกันการสะสมตัวของแคลเซียม นิ่วในไต และนิ้วในถุงน้ำดีได้
  12. เมื่อทำงานร่วมกับแคลเซียม จะทำงานคล้ายยาสงบประสาท บรรเทาอาการปวดหัวไมเกรน
  13. ช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุนได้
  14. มีส่วนช่วยในการป้องกันและรักษาโรคหืดหอบ

ส่วนประกอบที่สำคัญ

Vitamin D: 0.42μg, vitamin E: 13mg, vitamin K: 5μg, vitamin B1: 8.3mg, vitamin B2: 4mg, niacin: 5mg, vitamin B6: 3.3mg, folic acid: 67μg, vitamin B12: 20μg, biotin: 167μg, pantothenic acid: 10mg, vitamin C: 347mg, calcium: 58mg, magnesium: 29mg, vitamin P (hesperidin): 3.8mg, inositol: 17mg, reduced coenzyme Q10: 15mg, ginkgo leaf extract: 20mg (flavonoids: 24%, terpene lactone: 7%), ferulic acid: 50mg, α-GPC (alpha - glyceryl phosphorylcholine): 25mg, PSG (germinated brown rice sterol glycosides): 6mg, ginger extract powder: 8mg, vegetable lactic acid bacteria: 200 billion, DHA : 25mg, astaxanthin (as free form): 2mg, cyanidin-3-glucoside: 1.2mg, lutein: 8mg, N- acetyl glucosamine: 150mg, salmon nasal cartilage extract (proteoglycan · II collagen-containing): 13mg, vegetable Tsuintosu : 83mg, as soy isoflavone aglycone: 0.13mg (total isoflavone: 0.2mg)
cyanidin-3-glucoside, blueberries (bilberry) extract 10mg, it will be included in the black soybean seed coat extract 13.3mg.

วิธีรับประทาน

ให้ทานหลังอาหารวันละ 1-2 ซองกับน้ำอุ่นเป็นประจำทุกวันเพื่ออายุที่ยืนยาวและสุขภาพที่แข็งแรงค่ะ

บรรจุ 30 ซอง 

เงื่อนไขอื่นๆ
Tags

วิธีการชำระเงิน

ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) สาขามหาวิทยาลัยรังสิต ออมทรัพย์
ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) สาขามหาวิทยาลัยรังสิต ออมทรัพย์
บมจ. ธนาคารกสิกรไทย สาขาฟิวเจอร์พาร์ครังสิต ออมทรัพย์
พูดคุย-สอบถาม